
เรื่อง กรรม ที่ถูกต้องแท้จริงในพระพุทธศาสนาคือ
เรื่อง กรรมไม่ดำไม่ขาว
เป็นที่สิ้นสุดแห่งกรรมดำกรรมขาว
คือ เหนือดีเหนือชั่ว เหนือบุญเหนือบาป เหนือสุขเหนือทุกข์
เป็นไปเพื่อนิพพานส่วนเดียว

เพียงแต่สอนว่า ทำดี-ดี ทำชั่ว-ชั่ว นั้น
ยังมิใช่ของพระพุทธเจ้าแท้
เพราะมีสอนกันอยู่ก่อนพุทธกาล แต่ก็ยังคงเรียกว่า กรรมวาที ได้เหมือนกัน
เป็นเรื่องกรรมครึ่งเดียวไม่สมบรูณ์

ถ้าใครสามารถเอาความรู้เรื่อง
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เข้ามากำกับอยู่กับชีวิตประจำวันแล้ว
คนนั้นได้ชื่อว่า มีเชื้อต้านทานโรคสูงสุด
แล้วอารมณ์รูป เสียง กลิ่น รส นั้นจะไม่เกิดเป็นพิษขึ้นมาได้
เราจะมีอยู่ เป็นอยู่อย่างมีความเกษม

อย่าอยู่ด้วยความหวัง แต่อยู่ด้วยสติปัญญา
สติปัญญารู้ว่า ควรทำอะไรก็ทำ อย่าไปหวัง
ทำให้มันถูกต้อง ผลมันมาเอง
ไม่ต้องหวังให้มันกัดหัวใจ หวังเมื่อไหร่ มันกัดหัวใจเมื่อนั้น

คนเราทุกคนมีร่างกายซึ่งเรียกว่า รูป
แล้วก็มีส่วนที่เป็น ใจ แยกเป็น จิต ส่วนหนึ่ง เป็น เจตสิก ส่วนหนึ่ง

เป็นจิต นั้นคือตัวที่เป็นประธาน ยืนโรงอยู่จนกว่าจะดับ จิต ในที่สุด
เมื่อยังไม่สิ้นกิเลส ก็ยังไม่ดับ ยังยืนโรงอยู่เป็นประธานเรื่อยไป

คนมีใจเดินต่ำ มนุษย์มีใจเดินสูงขึ้น
แล้วจะไม่ต่างกันยิ่งกว่าฟ้าและดินซึ่งหยุดอยู่เฉยๆ ได้อย่างไร

การมีธรรมะ แท้จริงก็คือ
สามารถดำรงตนอยู่เหนือปัญหาหรือความทุกข์ทั้งปวง
ไม่เกี่ยวกับปริญญาบัตร พิธีรีตรองหรือหลักปรัชญาชนิดฟิโลโซฟีใดๆ

เขาเป็นเพื่อนเกิดแก่เจ็บตายของเรา
เขาเป็นเพื่อนเวียนว่ายอยู่ในวัฏสงสารเช่นเดียวกันกะเรา
เขาก็ตกอยู่ใต้อำนาจกิเลสเหมือนเราย่อมพลั้งเผลอไปบ้าง
เขาก็มีราคะโทสะโมหะไม่น้อยไปกว่าเรา
เขาก็ไม่รู้ว่าเกิดมาทำไมเหมือนเรา ไม่รู้จักนิพพานเหมือนเรา
เขาโง่ในบางอย่างเหมือนที่เราเคยโง่

เขาก็อยากดีเหมือนเราที่อยากดีเด่นดัง
เขาก็มักจะกอบโกยและเอาเปรียบเมื่อมีโอกาสเหมือนเรา
เขาเป็นคนธรรมดาที่ยึดมั่นถือมั่นอะไรต่างๆเหมือนเรา
เขาไม่มีหน้าที่ที่จะเป็นทุกข์หรือตายแทนเรา
เขาเป็นเพื่อนร่วมชาติร่วมศาสนากะเรา
เขาก็ทำอะไรด้วยความคิดชั่วแล่นและผลุนผลันเหมือนเรา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น